Discover Our Story

“เรื่องราวของเรา” เริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์

การใช้ยาจากพืชเป็นสิทธิมนุษยชน และทุกคนในโลกควรเข้าถึงยาจากกัญชงได้อย่างง่ายดาย เป้าหมายของเราคือการทำให้ CBD กลายเป็นยาสามัญในบ้านทุกหลังทั่วโลกภายในปี 2030 โดยจะมีอยู่ในบ้านเช่นเดียวกับเกลือและกระเทียม

เมื่อ 20 ปีก่อน ขณะที่ศึกษาเกี่ยวกับพันธุศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเดนมาร์ก ดร.เฮนรี วินเซนติได้เดินทางไปทั่วแอฟริกาเพื่อทำงานในโครงการเพื่อซลศึกษาเกี่ยวกับการเพิ่มอายุขัยของผู้คนในภูมิภาคซูลู เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้กำลังป่วยเป็นโรคเอดส์ ดร.เฮนรีใช้เวลาในคลินิกเคลื่อนที่เพื่อนำการแพทย์แบบกระแสหลักมาใช้ ที่นี่ และเห็นว่ายาที่ได้มอบให้กลับทำให้สิ่งต่างๆ แย่ลง

และสิ่งนี้พาตัวเค้าเองไปสู่การเดินทางที่ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เค้าได้เรียนรู้ในมหาวิทยาลัย และทำให้เค้าเริ่มมองหาทางเลือกอื่นๆ ที่จะฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพของผู้คนโดยที่ไม่มีผลข้างเคียง ในการวิจัย ดร.เฮนรี ค้นพบว่าโภชนาการที่ถูกต้องคือคำตอบ วิตามินและแร่ธาตุจากธรรมชาติที่เข้มข้นสามารถช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และพบว่าต้นกัญชงมีประสิทธิภาพที่สุด เมื่อพิจารณาจาก “การแพทย์ทางเลือก” ในเวลาเดียวกัน สหรัฐอเมริกา ได้มีผู้คนเดินขบวนบนท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้กัญชงถูกกฎหมาย มีผู้คนมากมายสนับสนุนว่าการใช้ต้นกัญชงช่วยให้เอาชนะโรคเอดส์และปัญหาร้ายแรงอื่นๆ ไ

เมื่อ 20 ปีก่อน ขณะที่ศึกษาเกี่ยวกับพันธุศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเดนมาร์ก ดร.เฮนรี วินเซนติได้เดินทางไปทั่วแอฟริกาเพื่อทำงานในโครงการเพื่อซลศึกษาเกี่ยวกับการเพิ่มอายุขัยของผู้คนในภูมิภาคซูลู เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้กำลังป่วยเป็นโรคเอดส์ ดร.เฮนรีใช้เวลาในคลินิกเคลื่อนที่เพื่อนำการแพทย์แบบกระแสหลักมาใช้ ที่นี่ และเห็นว่ายาที่ได้มอบให้กลับทำให้สิ่งต่างๆ แย่ลง

และสิ่งนี้พาตัวเค้าเองไปสู่การเดินทางที่ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เค้าได้เรียนรู้ในมหาวิทยาลัย และทำให้เค้าเริ่มมองหาทางเลือกอื่นๆ ที่จะฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพของผู้คนโดยที่ไม่มีผลข้างเคียง ในการวิจัย ดร.เฮนรี ค้นพบว่าโภชนาการที่ถูกต้องคือคำตอบ วิตามินและแร่ธาตุจากธรรมชาติที่เข้มข้นสามารถช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และพบว่าต้นกัญชงมีประสิทธิภาพที่สุด เมื่อพิจารณาจาก “การแพทย์ทางเลือก” ในเวลาเดียวกัน สหรัฐอเมริกา ได้มีผู้คนเดินขบวนบนท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้กัญชงถูกกฎหมาย มีผู้คนมากมายสนับสนุนว่าการใช้ต้นกัญชงช่วยให้เอาชนะโรคเอดส์และปัญหาร้ายแรงอื่นๆ ไ

การค้นพบกัญชง

ดร.เฮนรี เริ่มค้นคว้าและทดลองปลูกต้นกัญชงชนิดต่างๆ ซึ่งแทบไม่มีสาร THC เลย เค้าได้ปลูกต้นกัญชงแบบที่ไม่ต้องมีใบอนุญาต เนื่องจากในยุโรป กัญชงที่ไม่มีสาร THC ถือเป็นพืชที่ถูกกฎหมายมาตั้งแต่ปี 1997 จุดเริ่มต้นของเค้าคือสารแคนนาบินอยด์ CBD และในการวิจัยช่วงเวลาที่เค้าอยู่ในหอจดหมายเหตุของมหาวิทยาลัย เค้าได้พบการศึกษาเกี่ยวกับผู้ป่วยที่เป้นโรคลมบ้าหมู
โดยเฉพาะกลุ่มที่ทดลองใช้ CBD โดยการศึกษานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจตั้งแต่ปี 1982 และดร.เฮนรีสามารถเพาะพันธุ์กัญชงที่มี CBD อยู่ได้อย่างเพียงพอในการสกัด ในขณะเดียวกันก็ได้ค้นพบโมเลกุลขนาดใหญ่อื่นๆ และประโยชน์มากมาย ทั้งหมดนั้นล้วนมีอยู่ในต้นกัญชง

ดร.เฮนรีจึงตัดสินใจที่จะช่วยเปลี่ยนมุมมองของโลกที่มีต่อกัญชงโดยทำให้สารแคนนาบินอยด์ที่ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาทมีจำหน่ายทางออนไลน์เพื่อจำกัดข้อถกเถียงออก ซุ่งในปี 2010 เค้าปลูกต้นกัญชงในขนาดพื้นที่  2 เฮกตาร์และสร้างห้องแล็ปไฮเทคขนาดเล็ก ซึ่งเป้นต้นกำเนิดผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสุดที่รับประกันความปลอดภัยของผู้ป่วยจนถึง ณ ปัจจุบัน

การค้นพบกัญชง

ดร.เฮนรี เริ่มค้นคว้าและทดลองปลูกต้นกัญชงชนิดต่างๆ ซึ่งแทบไม่มีสาร THC เลย เค้าได้ปลูกต้นกัญชงแบบที่ไม่ต้องมีใบอนุญาต เนื่องจากในยุโรป กัญชงที่ไม่มีสาร THC ถือเป็นพืชที่ถูกกฎหมายมาตั้งแต่ปี 1997 จุดเริ่มต้นของเค้าคือสารแคนนาบินอยด์ CBD และในการวิจัยช่วงเวลาที่เค้าอยู่ในหอจดหมายเหตุของมหาวิทยาลัย เค้าได้พบการศึกษาเกี่ยวกับผู้ป่วยที่เป้นโรคลมบ้าหมู
โดยเฉพาะกลุ่มที่ทดลองใช้ CBD โดยการศึกษานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจตั้งแต่ปี 1982 และดร.เฮนรีสามารถเพาะพันธุ์กัญชงที่มี CBD อยู่ได้อย่างเพียงพอในการสกัด ในขณะเดียวกันก็ได้ค้นพบโมเลกุลขนาดใหญ่อื่นๆ และประโยชน์มากมาย ทั้งหมดนั้นล้วนมีอยู่ในต้นกัญชง

ดร.เฮนรีจึงตัดสินใจที่จะช่วยเปลี่ยนมุมมองของโลกที่มีต่อกัญชงโดยทำให้สารแคนนาบินอยด์ที่ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาทมีจำหน่ายทางออนไลน์เพื่อจำกัดข้อถกเถียงออก ซุ่งในปี 2010 เค้าปลูกต้นกัญชงในขนาดพื้นที่  2 เฮกตาร์และสร้างห้องแล็ปไฮเทคขนาดเล็ก ซึ่งเป้นต้นกำเนิดผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสุดที่รับประกันความปลอดภัยของผู้ป่วยจนถึง ณ ปัจจุบัน

เมื่อกล่าวถึงต้นกัญชง

ต่อมาชื่อ เอนโดก้า ก็เริ่มต้นขึ้น โดยใช้ชื่อตามระบบ”เอนโด-แคนนาบินอยด์” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการสำรวจมากนักในทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ส่วนใหญ่ โดยระบบนี้ทำหน้าที่เชื่อมโยงกับสารแคนนาบินอยด์โดยตรง ดร.เอฮนรี ได้สร้างเว็บไซต์และร้านค้าออนไลน์ และพื้นที่ขาย CBD ทางออนไลน์แห่งแรงของโลก เป้าหมายหลักของเค้าและบริษัทคือการทำให้แคนนาบินอยด์ที่ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท หรือ CBD มีจำหน่ายให้กับผู้ป่วยที่ต้องการใช้ทั่วโลก ทุกสิ่งที่ดร.เฮนรีสร้างขึ้นนั้นสร้างขึ้นจากศูนย์: ด้วยการลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้เงินทุนจากผู้ป่วยที่ยินดีจ่ายเงินเพื่อผลิตภัณฑ์ ที่เป็นแรงผลักดันใน เอนโดก้าสามารถผลิตได้มากขึ้น และได้ส่งต่อความช่วยเหลือผู้ป่วยคนต่อๆไป

เมื่อกล่าวถึงต้นกัญชง

ต่อมาชื่อ เอนโดก้า ก็เริ่มต้นขึ้น โดยใช้ชื่อตามระบบ”เอนโด-แคนนาบินอยด์” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการสำรวจมากนักในทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ส่วนใหญ่ โดยระบบนี้ทำหน้าที่เชื่อมโยงกับสารแคนนาบินอยด์โดยตรง ดร.เอฮนรี ได้สร้างเว็บไซต์และร้านค้าออนไลน์ และพื้นที่ขาย CBD ทางออนไลน์แห่งแรงของโลก เป้าหมายหลักของเค้าและบริษัทคือการทำให้แคนนาบินอยด์ที่ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท หรือ CBD มีจำหน่ายให้กับผู้ป่วยที่ต้องการใช้ทั่วโลก ทุกสิ่งที่ดร.เฮนรีสร้างขึ้นนั้นสร้างขึ้นจากศูนย์: ด้วยการลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้เงินทุนจากผู้ป่วยที่ยินดีจ่ายเงินเพื่อผลิตภัณฑ์ ที่เป็นแรงผลักดันใน เอนโดก้าสามารถผลิตได้มากขึ้น และได้ส่งต่อความช่วยเหลือผู้ป่วยคนต่อๆไป

แบรนด์ “เอนโดก้า”

ปัจจุบันเราปลูกพืชกัญชงอินทรีย์ (ออร์แกนิก) บนพื้นที่กว่า 1,000 เฮกตาร์ และได้สร้างโรงงานที่เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตยา ซึ่งเราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นอันดับแรก โดยมุ่งมั่นที่จะทำให้ CBD มีจำหน่ายทั่วโลกและมีราคาที่เอื้อมถึงโดยไม่กระทบต่อคุณภาพ เมื่อเอนโดก้าเติบโต เราก็ได้ดึงเกษตรกรในท้องถิ่นให้เข้ามามีส่วนร่วม พร้อมมอบความรู้และอุปกรณ์ในการปลูกกัญชงสำหรับ Endoca ให้กับพวกเขา เราจะเปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่ใช่เกษตรอินทรีย์หลายล้านเอเคอร์ให้กลายเป็นเกษตรอินทรีย์ ซึ่งหมายความว่าเราจะเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรทั่วไป จากเกษตรกรที่มีทรัพยากรและที่ดินจะได้รับการสนับสนุนให้เลือกใช้ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้วยการทำเช่นนี้ จะทำให้มีผลกระทบเชิงบวกครั้งใหญ่เพื่อลดปัญหามลพิษทั่วโลก

แบรนด์ “เอนโดก้า”

ปัจจุบันเราปลูกพืชกัญชงอินทรีย์ (ออร์แกนิก) บนพื้นที่กว่า 1,000 เฮกตาร์ และได้สร้างโรงงานที่เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตยา ซึ่งเราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นอันดับแรก โดยมุ่งมั่นที่จะทำให้ CBD มีจำหน่ายทั่วโลกและมีราคาที่เอื้อมถึงโดยไม่กระทบต่อคุณภาพ เมื่อเอนโดก้าเติบโต เราก็ได้ดึงเกษตรกรในท้องถิ่นให้เข้ามามีส่วนร่วม พร้อมมอบความรู้และอุปกรณ์ในการปลูกกัญชงสำหรับ Endoca ให้กับพวกเขา เราจะเปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่ใช่เกษตรอินทรีย์หลายล้านเอเคอร์ให้กลายเป็นเกษตรอินทรีย์ ซึ่งหมายความว่าเราจะเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรทั่วไป จากเกษตรกรที่มีทรัพยากรและที่ดินจะได้รับการสนับสนุนให้เลือกใช้ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้วยการทำเช่นนี้ จะทำให้มีผลกระทบเชิงบวกครั้งใหญ่เพื่อลดปัญหามลพิษทั่วโลก